เรื่อง นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)

บริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด

————————————————————————

บทนำ

            นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้กำหนดหลักการของบริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (“บริษัทฯ”) ในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่บริษัทฯ ได้รับมาไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม บริษัทฯ และพนักงานของบริษัทฯ หุ้นส่วนทางธุรกิจ คู่ค้าหรือบุคคลภายนอกที่ปฏิบัติงานให้หรือในนามของบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของท่าน และขอรับรองว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกประมวลผลโดยเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้ซึ่งรวมถึงพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยเสมอ

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ประกอบด้วย

  • ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร
  • บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้าง
  • บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
  • บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมอย่างไร
  • บริษัทฯ เปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เก็บรวบรวมเมื่อใด
  • บริษัทฯ ทำการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมไปยังต่างประเทศหรือไม่
  • บริษัทฯ แจ้งต่อท่านถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใด
  • ท่านมีสิทธิอะไรบ้างภายใต้พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมไว้นานแค่ไหน
  • บริษัทฯ ใช้มาตรการใดรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวม
  • บริษัทฯ ทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เมื่อใด
  • ติดต่อบริษัทฯ ได้อย่างไร

            โปรดอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อย่างละเอียดเพื่อทำความเข้าใจถึงวิธีการที่บริษัทฯ จัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสิทธิทั้งหลายที่ท่านมีเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อนึ่ง นโยบายฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในระหว่างที่ท่านยังคงมีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ ดังนั้น บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านกลับมาอ่านนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตาม
หากนโยบายฉบับนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญซึ่งอาจกระทบสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบโดยทันทีโดยการประกาศลงในเว็บไซต์ของบริษัทฯ

            เว็บไซต์ของบริษัทฯ อาจมีไฮเปอร์ลิงค์ (hyperlinks) ที่นำท่านเข้าสู่เว็บไซต์ซึ่งบุคคลภายนอกเป็นเจ้าของและเป็นคนดำเนินการ เว็บไซต์ของบุคคลภายนอกเหล่านี้มีนโยบายความเป็นส่วนตัวแยกต่างหากและมีโอกาสที่จะมีการใช้คุกกี้ (cookies) บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวเหล่านี้ ซึ่งจะควบคุมการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านอาจได้ส่งไปให้เมื่อเข้าสู่เว็บไซต์ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บรวบรวมโดยคุกกี้ (cookies) บริษัทฯ จะไม่มีความรับผิดในกรณีใด ๆ ที่เกิดจากการเข้าเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกดังกล่าว

            หากท่านมีข้อสงสัยหรือไม่เข้าใจส่วนใดในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือประสงค์จะใช้สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ โปรดติดต่อบริษัทฯ ตามรายละเอียดที่ให้ไว้ส่วน “ติดต่อบริษัทฯ ได้อย่างไร”

1. ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร

            ภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใดที่เกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้บริษัทฯ สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมจากข้อมูลนั้นเพียงลำพังหรือเมื่อนำไปรวมกับตัวระบุอื่น ๆ ที่บริษัทฯ มีหรือสามารถเข้าถึงได้ตามสมควร แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม  ข้อมูลส่วนบุคคลสามารถแยกประเภทได้ดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว เช่น ชื่อและนามสกุล เพศ
    วันเดือนปีเกิด อายุ สัญชาติ หมายเลขติดต่อ ภาพถ่าย ที่อยู่ อีเมล
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว หมายถึง ประเภทเฉพาะของข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    ซึ่งประกอบด้วย ต้นกำเนิดเชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อทางลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ บันทึกประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพหรือข้อมูลความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือ ข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประกาศกำหนดไว้ตามกฎหมาย

2. บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้าง

            ประเภทของข้อมูลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่านอาจแตกต่างกันไปตามตัวตนของท่านและความสัมพันธ์ของท่านที่มีกับบริษัทฯ  โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่จะถูกเก็บรวบรวมอาจรวมถึง

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

·      ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น ลายเซ็น สัญชาติ เพศ วันเดือนปีเกิด อายุ ภาพถ่าย อาชีพ และตำแหน่ง

·      หมายเลขติดต่อ อีเมล ที่อยู่ LINE ID และบัญชีโซเชียลมีเดีย

·      ทะเบียนรถ

·      บัตรประจำตัวประชาชน (โดยไม่รวมถึงศาสนาและหมู่เลือด) พาสปอร์ต วีซ่าและใบอนุญาตทำงาน ใบขับขี่ ทะเบียนบ้าน สูติบัตร ทะเบียนสมรส ใบรับรองผลการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหาร และใบประกอบวิชาชีพ

·      รายละเอียดในเรซูเม่ (เช่น ประวัติการศึกษา และใบรับรองผลการเรียน)

·      ประสบการณ์การทำงาน

·      รายละเอียดบัญชีธนาคาร และสมุดบัญชีธนาคาร

·      ภาพจากกล้องวงจรปิด

·      ข้อมูลอื่น ๆ ที่ท่านมอบให้บริษัทฯ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว

·        บัตรประจำตัวประชาชนที่ปรากฏศาสนา และหมู่เลือด

·        ประวัติอาชญากรรม

·        ผลการทดสอบ ATK และประวัติการฉีดวัคซีน Covid-19

·        รายละเอียดสุขภาพและผลการตรวจสุขภาพ

·        อุณหภูมิของร่างกาย

·        ผลตรวจสารเสพติดและแอลกอฮอล์

·        การแพ้อาหาร

·    ข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประกาศกำหนดไว้ตามกฎหมาย

            หากท่านปฏิเสธหรือไม่สามารถที่จะส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามที่บริษัทฯ ขอ บริษัทฯ อาจไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับท่าน หรือเสนอสินค้าและ/หรือบริการของบริษัทฯ ให้กับท่านได้ รวมถึงการจ้างงานระหว่างบริษัทฯ กับท่านอีกทั้งประโยชน์และสวัสดิการอื่น ๆ

3. บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

            บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรง แต่ในบางกรณี บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะและ/หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ซึ่งบริษัทฯ ขอรับรองว่าบริษัทฯ จะปฏิบัติตาม
พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างเคร่งครัด

            บุคคลภายนอกอื่น ๆ อาจรวมถึงบริษัทย่อยของบริษัทฯ หุ้นส่วนทางธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ผู้ให้บริการ หรือคู่ค้า

4. บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมอย่างไร

            บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย โอน หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการที่ยุติธรรมและชอบด้วยกฎหมายในขอบเขตที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ  โดยฐานทางกฎหมายรวมถึง

  • บริษัทฯ ขอรับความยินยอมจากท่านในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • บริษัทฯ เชื่อว่าการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์สำคัญต่อชีวิต (vital interest) หรือ
    เพื่อป้องกันหรือหลีกเลี่ยงอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • บริษัทฯ เชื่อว่าการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา หรือ
    เพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา
  • บริษัทฯ เชื่อว่าการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจของบริษัทฯ เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่มอบให้แก่บริษัทฯ
  • บริษัทฯ เชื่อว่าการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย (legitimate interest) ของบริษัทฯ หรือบุคคลภายนอก เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าประโยชน์หรือสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่าน
  • บริษัทฯ เชื่อว่าการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้ง การเรียกร้อง การใช้สิทธิหรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งข้อเรียกร้องทางกฎหมายกับท่าน
  • บริษัทฯ เชื่อว่าการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทฯ
    อยู่ภายใต้บังคับ

บริษัทฯ อาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

4.1 สัญญาระหว่างบริษัทฯ กับท่าน

บริษัทฯ จะใช้หลักการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญาในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งบริษัทฯ อาจใช้
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีดังต่อไปนี้โดยขึ้นอยู่กับลักษณะของแต่ละสัญญาที่ท่านมีกับบริษัทฯ

  • การสรรหาและคัดเลือกการสมัครงานของท่านก่อนเข้าทำสัญญาจ้างงาน
  • การสร้าง การควบคุม การมอบอำนาจ การประสานงาน การร่วมมือ การบริหารจัดการ การสิ้นสุดและ
    การดำเนินการอื่น ๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในการจ้างงานระหว่างท่านกับบริษัทฯ
  • การจัดอบรมและกิจกรรมอื่น ๆ ภายในบริษัทฯ
  • การจัดหา ออกหรือเข้าทำสัญญา เปิดและรักษาบัญชีของท่านที่มีกับบริษัทฯ
  • การใช้สิทธิหรือปฏิบัติตามหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ทำขึ้น
  • การบริหาร การนำไปใช้ การอำนวยความสะดวก การตรวจสอบ การบำรุงรักษา การจัดการ และการดำเนินงานเกี่ยวกับบริการของท่านต่อบริษัทฯ
  • การจัดการปัญหาที่เกิดจากการซื้อและการใช้สินค้าและบริการของบริษัทฯ หรือ
  • การชำระเงิน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สามเพื่อการชำระเงินดังกล่าว และให้แก่สถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาต

4.2. ประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

บริษัทฯ จะใช้และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของท่านภายใต้ฐานประโยชน์อันชอบธรรมที่บริษัทฯ หรือบุคคลภายนอกยึดถือ เว้นแต่กรณีที่ประโยชน์ดังกล่าวสำคัญน้อยกว่าประโยชน์หรือสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่าน

ตัวอย่างเช่น บริษัทฯ มีผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายที่ทำให้บริษัทฯ สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมในกรณีดังต่อไปนี้

  • การติดต่อธุรกรรมทางธุรกิจ
  • การเข้าทำสัญญา
  • การเข้ารับและจัดส่งสินค้า
  • การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของท่าน ไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว
    เพื่อการสอบสวนข้อร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือการประพฤติมิชอบของพนักงาน
  • การรักษาความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สินภายในบริเวณของบริษัท เช่น การใช้ระบบกล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัย หรือ
  • การก่อตั้ง ใช้ หรือยกขึ้นสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของท่าน

4.3 การปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ และข้อเรียกร้องทางกฎหมาย

บริษัทฯ จะใช้หลักวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายเมื่อจำเป็นหรือสามารถใช้ได้ตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้กับบริษัทฯ ตัวอย่างเช่น บริษัทฯ จะใช้หลักการปฏิบัติตามกฎหมายหรือหน้าที่ตามกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมในกรณีดังต่อไปนี้

  • การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ในการชำระเงินและภาษีตามพระราชบัญญัติการบัญชีและประมวลรัษฎากร
  • เพื่อปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานภายใต้กฎหมาย รวมถึงคำร้องขอที่ชอบด้วยกฎหมายให้เปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ

บริษัทฯ อาจใช้หลักสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของท่านเพื่อการก่อตั้ง
ปฏิบัติตาม ใช้สิทธิ หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายกับท่าน หรือเพื่อดำเนินคดีฟ้องร้องเพื่อปกป้องประโยชน์ของบริษัทฯ

4.4 ความยินยอมของบริษัทฯ

บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมบนฐานความยินยอม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่
การประมวลผลข้อมูลของบริษัทฯ อาจมีผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของท่าน

บริษัทฯ อาจแจ้งต่อท่านถึงวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ และจะขอรับความยินยอมหรือความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในกรณีดังต่อไปนี้

  • ในกรณีที่บริษัทฯ ไม่มีฐานทางกฎหมายอื่นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของท่าน เช่น การประมวลผลข้อมูลสุขภาพ การประมวลผลบันทึกประวัติอาชญากรรม การประมวลผลสำเนา
    บัตรประจำตัวประชาชนซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว
  • ในกรณีที่บริษัทฯ มีความประสงค์จะโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมไปยังต่างประเทศโดยที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่ต่ำกว่า หรือ
  • ในกรณีที่ท่านเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนคนไร้ความสามารถหรือคนไร้ความสามารถซึ่งเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลของท่านแล้วแต่กรณี

5. บริษัทฯ เปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เก็บรวบรวมเมื่อใด

            บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุไว้เมื่อทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล  บุคคลภายนอกที่บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมอาจรวมถึง

  • บริษัทในกลุ่มและบริษัทย่อย
  • หน่วยงานของรัฐบาล หน่วยงานกำกับดูแลหรือตุลาการ
  • ธนาคารพาณิชย์
  • โรงพยาบาล
  • บริษัทประกัน หรือ
  • หุ้นส่วนทางธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ผู้ให้บริการหรือคู่ค้า

            เมื่อบริษัทฯ เปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมให้แก่บุคคลภายนอก บริษัทฯ จะดำเนินการกำกับดูแลบุคคลภายนอกที่จำเป็นและเหมาะสมเพื่อรับรองการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเปิดเผยหรือแบ่งปันให้เป็นไปโดยปลอดภัย เช่น การเข้าทำสัญญาเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลภายนอก

6. บริษัทฯ ทำการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมไปยังต่างประเทศหรือไม่

            บริษัทฯ อาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมและ/หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของท่าน
ที่ได้ถูกเก็บรวบรวมให้แก่บริษัทในกลุ่มหรือบุคคลภายนอกซึ่งอยู่นอกประเทศไทยเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่นโยบาย
ความเป็นส่วนตัวนี้กำหนดไว้

            บริษัทฯ จะโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมไปยังประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลหรือกฎหมายที่เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวเหมาะสมเพียงพอตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเห็นสมควร  ในกรณีที่มาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลถือว่าไม่เพียงพอ บริษัทฯ จะมีการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อปกป้องคุ้มครองผลประโยชน์ของท่าน หรือให้มีการโอนข้อมูลได้ต่อเมื่อเป็นไปตามข้อยกเว้นข้อใดข้อหนึ่งที่พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนดไว้เท่านั้น ข้อยกเว้นดังกล่าวประกอบด้วยกรณีที่

  • การโอนข้อมูลเป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
  • ท่านได้ให้ความยินยอมอย่างชัดแจ้งในการโอนข้อมูลภายหลังจากที่ท่านได้รับทราบถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการโอนข้อมูลดังกล่าวซึ่งไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลหรือการป้องกันที่เหมาะสมเพียงพอ
  • การโอนข้อมูลเป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่มีกับท่านหรือเพื่อการดำเนินมาตรการก่อนทำสัญญา
    (pre-contractual measures) ตามที่ท่านขอ
  • การโอนข้อมูลเป็นการจำเป็นเพื่อการสิ้นสุดหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ และบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน
  • การโอนข้อมูลเป็นการจำเป็นเพื่อปกป้องประโยชน์ที่สำคัญต่อชีวิต (vital interests) ของท่านหรือบุคคลอื่น
    ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ หรือ
  • การโอนข้อมูลจำเป็นเพื่อเหตุผลสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

7. บริษัทฯ แจ้งต่อท่านถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใด

            บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบทุกครั้งก่อนหรือในขณะที่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถึงวัตถุประสงค์
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ยกเว้นในกรณีที่บริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์
ในการประมวลผลข้อมูลของบริษัทฯ เช่นในกรณีที่

  • ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ใหม่หรือรายละเอียดของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว
  • บริษัทฯ เชื่อว่าการแจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ดังกล่าวหรือรายละเอียดของการประมวลผลข้อมูลของบริษัทฯ ไม่สามารถกระทำได้หรือเป็นอุปสรรคต่อการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยเป็นกรณีที่บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพและผลประโยชน์ของท่าน
  • เป็นกรณีเร่งด่วนที่จำเป็นต้องใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมตามกฎหมายและบริษัทฯ
    ได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของท่าน หรือ
  • บริษัทฯ รับทราบหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยการปฏิบัติหน้าที่ อาชีพหรือวิชาชีพ และบริษัทฯ ได้รักษาวัตถุประสงค์ใหม่หรือรายละเอียดบางส่วนไว้เป็นความลับตามที่กฎหมายกำหนด

8. ท่านมีสิทธิอะไรบ้างภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามกฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้

1)       สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล

ท่านมีสิทธิเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เก็บไว้ หรือท่านสามารถขอให้บริษัทฯ เปิดเผยแหล่งที่มาที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งท่านไม่ได้ให้ความยินยอม

บริษัทฯ จะดำเนินการตามคำขอของท่านโดยเร็วที่สุด โดยจะไม่เกินสามสิบ (30) วันหลังจากที่ได้รับคำขอจากท่าน

2)       สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคล/องค์กรอื่นหรือขอดูข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้
ถูกเก็บรวบรวมที่บริษัทฯ ได้โอนไปยังบุคคล/องค์กรอื่น เว้นแต่บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านด้วยเหตุทางเทคนิค

3)       สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวม

ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวม เว้นแต่มีเหตุที่ทำให้ท่านไม่สามารถคัดค้านได้ เหตุดังกล่าวอาจรวมถึงกรณีที่บริษัทฯ มีประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายหรือเมื่อการประมวลผล
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมเป็นการปฏิบัติตาม การใช้สิทธิ หรือยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้อง
ทางกฎหมายหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ

4)       สิทธิในการขอลบข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ (anonymise) ในกรณีดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมไม่มีความจำเป็นต่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยอีกต่อไป
  • ท่านได้ถอนความยินยอมของท่านจากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยที่กระทำบนความยินยอมของท่านและบริษัทฯ ไม่มีฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้
    ถูกเก็บรวบรวม
  • ท่านได้คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมและบริษัทฯ
    ไม่มีฐานทางกฎหมายที่จะปฏิเสธคำขอของท่าน และ/หรือ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมายภายใต้พ.ร.บ. คุ้มครอง
    ข้อมูลส่วนบุคคล

5)       สิทธิในการจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวม

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ จำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมในกรณีดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมมีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ทำให้เข้าใจผิด
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมสมควรต้องถูกลบหรือทำลายเนื่องจากไม่เป็นไปตามกฎหมาย
    แต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมไม่จำเป็นต้องเก็บรักษาไว้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยอีกต่อไป แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้ทำการเก็บรักษาไว้เพื่อการก่อตั้ง การปฏิบัติตาม
    การใช้สิทธิ หรือยกขึ้นต่อสู้ซึ่งข้อเรียกร้องทางกฎหมาย และ/หรือ
  • บริษัทฯ อยู่ในระหว่างรอการยืนยันความถูกต้องเพื่อปฏิเสธคำขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย
    ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวม

6)       สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ทำให้เข้าใจผิด  
หากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ จะบันทึกการปฏิเสธพร้อมด้วยเหตุผล

7)       สิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียน

ท่านมีสิทธิยื่นร้องเรียนในกรณีที่บริษัทฯ ผู้ประมวลผลข้อมูลของบริษัทฯ  รวมทั้งพนักงานหรือผู้รับเหมาของบริษัทฯ ไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศอื่น ๆ ภายใต้พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

8)       สิทธิในการถอนความยินยอม

ท่านสามารถถอนความยินยอมของท่านได้ตลอดเวลา เว้นแต่บริษัทฯ มีฐานทางกฎหมายที่จะปฏิเสธคำขอของท่าน โดยบริษัทฯ ขอเรียนให้ท่านทราบว่าการถอนความยินยอมของท่านอาจมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ที่บริษัทฯ
มีกับท่าน หรือสินค้าและ/หรือบริการที่ท่านได้จะรับจากบริษัทฯ เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่หลังจากที่ถอน
ความยินยอมแล้วอาจไม่เพียงพอต่อการให้บริการของบริษัทฯ ครบถ้วนตามที่ท่านต้องการ หรือบริษัทฯ อาจต้อง
ใช้เวลาในการขอข้อมูลเพิ่มเติมจากท่าน

หากท่านเปลี่ยนใจเกี่ยวกับการที่บริษัทฯ มีหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมในประการใด และท่านประสงค์จะถอนความยินยอมของท่าน  ท่านสามารถแจ้งบริษัทฯ ได้ตลอดเวลาโดยทำตามขั้นตอนการถอนความยินยอมของบริษัทฯได้ที่ ส่วนทรัพยากรบุคคล บริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด เบอร์โทร 036-382-750       ต่อ 208

            เมื่อได้รับคำขอใช้สิทธิของท่าน บริษัทฯ อาจทำการขอข้อมูลเพิ่มเติมจากท่านเพื่อยืนยันตัวตนและสิทธิของท่านซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ แล้วแต่กรณี

9. บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมไว้นานแค่ไหน

            บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมไว้นานเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุไว้เมื่อทำการเก็บรวบรวม กล่าวคือ ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลจะแตกต่างกันตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้
ถูกเก็บรวบรวมและวัตถุประสงค์หรือเหตุผลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวม  ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องเก็บรักษา
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมไว้ต่อไปอีกเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือในกรณีที่มีการใช้สิทธิเรียกร้องหรือข้อร้องเรียนใดที่มีเหตุอันควรให้บริษัทฯ ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ หรือมีเหตุผลข้อบังคับหรือทางเทคนิคใด บริษัทฯ จะยังคงปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ถูกเก็บรวบรวมต่อไป

            บริษัทฯ มีกระบวนการเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลของบริษัทฯ ซึ่งได้รับการทบทวนอยู่อย่างสม่ำเสมอโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมและฐานทางกฎหมายสำหรับการกระทำดังกล่าว

            บริษัทฯ อาจต้องเก็บบันทึกภาพและวิดีโอจากระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บริษัทฯ ติดตั้งไว้เพื่อความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สินภายในสถานที่ของบริษัทฯ เป็นเวลา 30 วัน

            บริษัทฯ จะลบ ทำลาย ทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ (anonymise) โดยถาวรหรือกำจัดข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ถูกเก็บรวบรวมทั้งหมดเมื่อพ้นระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูล หรือเมื่อจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวม

            หากท่านมีข้อสงสัย โปรดติดต่อบริษัทฯ ตามรายละเอียดที่ให้ไว้ในส่วน “ติดต่อบริษัทฯ ได้อย่างไร”

10. บริษัทฯ ใช้มาตรการใดรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวม

            บริษัทฯ มีการใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อรักษาให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมอยู่ในความปลอดภัย รวมถึงเพื่อป้องกันการสูญเสียหรือความเสียหายและการเก็บรวบรวม เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยหรือประมวลผล
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ได้รับอนุญาต  อนึ่ง มาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ ซึ่งบังคับใช้กับการประมวลผลข้อมูลทุกประเภทไม่ว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวมจะถูกประมวลผลทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือในรูปแบบฉบับพิมพ์ ประกอบด้วยการเข้ารหัส (encryption) และวิธีการรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ

            บริษัทฯ มีการควบคุมให้พนักงานของบริษัทฯ และบุคคลภายนอกผู้ปฏิบัติงานในนามบริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมาตรฐานความเป็นส่วนตัวที่เหมาะสม รวมถึงมีหน้าที่ต้องป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

            บริษัทฯ มีการรักษากระบวนการและมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ อยู่อย่างสม่ำเสมอ และจะทำการแก้ไขปรับปรุงอย่างทันทีเมื่อพบว่ามีประเด็นที่ต้องปรับปรุงในกระบวนการและมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ
โดยพิจารณาถึงกระบวนการและมาตรการรักษาความปลอดภัยทางวัตถุ ทางเทคนิคและระดับองค์กรเพื่อรับรองระดับ
ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมที่เหมาะสมเพียงพอต่อความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้
การประมวลผลข้อมูลดังกล่าวสามารถเก็บรักษาเป็นความลับ มีความมั่นคง ความพร้อมและความยืดหยุ่นสืบเนื่องไป

            บริษัทฯ ขอรับรองว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ถูกเก็บรวบรวมจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัยและมั่นคงด้วยมาตรฐาน
ความปลอดภัยที่เคร่งครัดและเพียงพอ หากท่านมีเหตุให้เชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมถูกละเมิดหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ โปรดติดต่อบริษัทฯ ตามรายละเอียดที่ให้ไว้ในส่วน “ติดต่อบริษัทฯ ได้อย่างไร”

11. บริษัทฯ ทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เมื่อใด

            บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้เป็นปัจจุบันได้ตลอดเวลาที่บริษัทฯ เห็นสมควร โดยบริษัทฯ จะแจ้งการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา

12. ติดต่อบริษัทฯ ได้อย่างไร

            หากท่านมีความคิดเห็น คำแนะนำ คำถามหรือต้องการร้องเรียนหรือใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯ ได้ที่ ส่วนทรัพยากรบุคคล บริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด เบอร์โทร 036-382-750 ต่อ 208  หรือทางอีเมลได้ที่ คุณภัคนัฐ รามนัฏ [ pakkanut.rammanut@toto.com ] หรือทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ที่ https://th.toto.com

                                                                        บริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด

                                                                        1 มิถุนายน พ.ศ. 2565